วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 20, 2553

กรองหุ้นสไตล์ doodeemak

การกรองหุ้น ก็คือขั้นตอนขั้นตอนหนึ่งในการเริ่มต้นของการลงทุนนะครับ
แน่นอนครับว่าการเริ่มต้นที่ดีนั้นย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง หากเปรียบกับการหาเนื้อคู่ ก็คงจะเปรียบได้กับการกรองบุคลิก ลักษณะของเนื้อคู่ที่เราต้องการจะพบ
บางท่าน อาจจะมีประสบการณ์ได้เนื้อคู่จากการดูเว็บบอร์ด (ซึ่งบางครั้งอาจจะคิดไปเองว่าเป็นรักแรกพบ... ดูเว็บปุ๊บก็สามารถแต่งกับหุ้นตัวนั้นได้ปั๊บ)
ขณะที่บางท่านกว่าจะได้เนื้อคู่มา ก็ต้องผ่านการกรองแล้วกรองอีก... กรองแล้วกรองอีก (จนบางครั้งกรองนานจนหาไม่ได้ก็มี...)
แต่เทคนิคในการกรองหุ้นนั้น ผมเชื่อว่านักลงทุนแต่ละท่านก็คงมีวิธีคิดที่แตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางความคิด, ประสบการณ์, บุคลิกภาพส่วนตัว ซึ่งมีผลต่อระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้รวมไปถึงมุมมองในการกรองหุ้นแบบต่างๆ (เริ่มมีสาระบ้างละ)

ต่อไปนี้คือแนวความคิดของผมกับการกรองหุ้น ณ ประสบการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ 3 ปีครึ่งครับ

กรองหุ้นสไตล์ doodeemak

กฎข้อที่ 1: ลงทุนในธุรกิจที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินเป็นบวกสม่ำเสมอ (ดูนางให้ดูเงินสด ไม่ใช่บัตรเครดิต)
ข้อนี้แทบจะเป็นกฎเหล็กของผมเลยก็ว่าได้ครับ การกรองคู่แท้นั้นต้องเริ่มที่สถานะทางการเงินครับ โดยเน้นว่าเป็นเงินสดๆครับ ไม่ใช่เงินเชื่อ (เพื่อให้เราเกาะได้อย่างสบายใจ..อิอิ) ในแง่การลงทุนนั้น ป็น common sense สุดๆเลยครับ ในกรณีที่เราจะหาหุ้นส่วนธุรกิจ เราย่อมต้องการที่จะเป็นหุ้นส่วนกับธุรกิจที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกสม่ำเสมอ

อ้างอิงจากวิชาการประเมินมูลค่าโครงการ การหา NPV หรือ IRR ล้วนแล้วแต่ประเมินจากกระแสเงินสดด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นกฎข้อนี้เป็นกฎที่ห้ามฝ่าฝืนสำหรับผมครับ

กฎข้อที่ 2: ไม่ลงทุนในหุ้นที่มีคนติดตามมาก (จีบนางให้ดูคู่แข่ง)
ละครเกาหลีได้นำเสนอความหวังของปุถุชนชาวไทยว่าพระเอกหรือนางเอกถึงแม้จะมีฐานะ มีความแตกต่างจากเขาหรือเธอที่หมายปองเพียงใด ก็ยังมีความหวังที่จะสามารถเด็ดดอกฟ้ามาเชยชม จริงอยู่ที่ว่าหุ้นที่คนตามมากนั้น ส่วนใหญ่หลายต่อหลายธุรกิจเป็นกิจการที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มของการเติบโตและการทำกำไรที่ดี แต่ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่าคนส่วนใหญ่มักจะ "เชื่อ" กันจนเกินสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นจริงเสมอ ดังนั้นโอกาสที่หุ้นที่คนตามมากนั้นจะ undervalue คงมีน้อย (หรือนัยหนึ่งก็คือ โอกาสจะจีบติดนั้น..ยากครับ)

กฎข้อที่ 3: ถ้าไม่เชื่อกฎข้อแรก ให้ศึกษาไว้ก่อนแล้วรอหาจังหวะที่เหมาะสม (รอเธออกหักแล้วหาจังหวะดามใจ)
หากเรายังไม่หมดหวังกับการเด็ดดอกฟ้า ตามคัมภีร์เกาหลีวิทยา เราจะต้องรอครับ รอจนเขาหรือเธอนั้นอกหักหรือผิดหวัง แล้วอาศัยจังหวะที่ฝนตก หาร่มไปกางให้เธอ (ถ้าเธอพกร่มมาให้รอจังหวะน้ำกระเด็นใส่แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าแทน) ในมุมมองของหุ้นนั้น กรณีที่เราสนใจกิจการนั้นมากและมองว่าเป็นกิจการที่น่าสนใจ โอกาสอาจจะมาถึง หากมีเหตุการณ์พิเศษ ที่ทำให้หุ้นตัวนั้นๆถูกประเมินราคาตกลงไปมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสของเราที่จะได้ศึกษาผลกระทบและอาจเป็นโอกาสในการลงทุนของเราอีกครั้งหนึ่ง

กฎข้อที่ 4: หาหุ้นที่มีกระแสเงินสดอิสระในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับราคาตลาด (หากมีนางให้เลือกมากมาย...ให้เลือกนางที่คุ้มกับความพยายามที่สุด)
บางท่านอาจจะมีทางเลือกมาก มีหนุ่มๆหรือสาวๆที่กรองมาแล้วให้เลือกมากมาย ในกรณีนี้ เป็นสิทธิของท่านแล้วล่ะครับ ที่จะมีสิทธิเลือกว่าที่คู่ชีวิตที่ท่านคิดว่าเหมาะสมกับความพยายามมากที่สุด ตัวอย่างเช่น หลังจากกรองแล้วเจอ อั้ม พัชราภา, แอฟ ทักษอร และน้องมีนนางเอกปลาบู่ทอง ถึงแม้ทั้งสามคนนี้ เราจะมีโอกาสจีบติด แต่ความพยายามนั้นจะเห็นได้ว่าสองคนแรกนั้น ต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกิน (เพราะแฟนปัจจุบันของเค้าแต่ละคนก็คือถังเงินถังทองเคลื่อนที่ดีๆนี่เอง) แต่กับน้องมีนปลาบู่ จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะมีข่าวกับดาราหนุ่มบางคน แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นตัวเป็นตน อีกทั้งต้นทุนการเทคแคร์ ก็ไม่น่าจะสูงเท่ากับสองคนแรก ดังนั้น เมื่อประเมิน value/cost แล้วพบว่ามีค่าสูงที่สุด... ฟันธง!
กลับมาที่เรื่องหุ้นกันบ้าง (หลังจากนอกเรื่องมานาน...) การกรองหุ้นลักษณะนี้มักจะทำให้เราได้หุ้นที่ปลอดภัยและราคาไม่แพง เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสี่ยง แต่การประมาณการกระแสเงินสดอิสระนั้น เราอาจจะต้องพิจารณาย้อนหลังหลายๆปี เพื่อดูแนวโน้มและความสม่ำเสมอ (ดูว่าคุณภาพนั้น ของแท้หรือเทียม หากเทียบกับการเลือกคู่ บางทีเราอาจจะเจอ"ตอ"ก็เป็นได้) ดังนั้นเราอาจจะต้องมีการปรับกระเงินสดดำเนินงานและกระแสเงินสดจากการลงทุนให้เหมาะสมโดยตัดเอาเงินลงทุน ที่ใช้ในการขยายกิจการ หรือเงินได้หรือจ่ายพิเศษๆออกไป อย่างไรก็ตาม กฎข้อนี้ไม่ควรกรองแบบเข้มข้นมากจนเกินไป จนทำให้เราละเลยหุ้นที่อาจจะแพงกว่าหน่อย แต่มีศักยภาพสูงกว่ามาก

กฎข้อที่ 5: เลือกหุ้นที่มีหนี้สินต่ำ (เลือกนางที่มีภาระน้อยที่สุด)
หากท่านจะหาคู่ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ท่านจะได้เป็น pakage ซื้อ 1 แถม 3 ก็คือพ่อตาแม่ยายและลูกติด (ในบางกรณี) หากเป็นไปได้ เพื่อความราบรื่นในชีวิต การเลือกคู่ที่ภาระน้อยย่อมได้เปรียบ ในมุมมองของหุ้น ด้วยความที่เป็นคนที่มีพื้นฐานไม่ชอบเสี่ยง หุ้นที่เหมาะกับกระผมจึงเป็นหุ้นที่ไม่ควรมีหนี้สินมากๆ โดยอาจจะวัดได้จากการเอาหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยหารด้วยกระแสเงินสดอิสระไม่ควรมากกว่า 3 ซึ่งหมายความว่า เราสามารถนำเงินสดไปชำระหนี้หมดได้ในเวลาไม่เกิน 3 ปี

กฎข้อที่ 6: เลือกหุ้นที่คุณเข้าใจ และสามารถติดตามได้ (เลือกคนที่เราเข้าใจเค้าและเค้าก็เข้าใจเรา)
ทุกข้อที่กล่าวมา หากข้อนี้ไม่ผ่าน สุดท้ายคู่ต่างๆก็มักลงเอยด้วยประโยคที่ว่า "เราเข้ากันไม่ได้" หรือ "เรามีทัศนคติแตกต่างกันเกินไป" กฎข้อนี้เป็นกฎเหล็กอีกข้อหนึ่งซึ่งผมวางไว้ข้อสุดท้ายเพื่อเตือนใจเอาไว้ว่า "อย่าลงทุนในธุรกิจที่เราไม่เข้าใจและไม่สามารถประมาณการอนาคตได้เป็นอันขาด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น